โครงงาน
“ภูมิปัญญาท้องถิ่นภาคใต้ (ข้าวเม่าทรงเครื่อง)”
จัดทำโดย
นายพัชรพล เหล่าดี เลขที่ 11
นางสาวศิริวิภา พุทธรักษา เลขที่ 35
นางสาวสุพิชฌาย์ รอดภัย เลขที่ 41
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1
เสนอ
อาจารย์พรทิพย์ มหันตมรรค
รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี
ภาคเรียนที่ 1/2555
วิทยาลัยนาฏศิลปนครศรีธรรมราช
สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่อง ข้าวเม่าทรงเครื่อง
เพื่อมาศึกษาวิธีการทำข้าวเม่า ทำให้ได้รู้ถึงรูปแบบวิธีการทำ
และวัฒนธรรมการการอนุรักษ์ของชุมชนในท้องถิ่นภาคใต้อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่สมควรรับการส่งเสริม
และอนุรักษ์ตลอดไป
จากการศึกษาพบว่า
ข้าวเม่า เป็นขนมไทยที่นิยมกินกันมาตั้งแต่โบราณ ซึ่งจะมีข้าวเม่าอยู่ด้วย
ได้มีการประยุกต์จากข้าวเม่า มาเป็นข้าวเม่าทรงเครื่อง โดยให้นำสิ่งแวดล้อมความเป็นธรรมชาติมาพัฒนาปรับปรุง
เพื่อให้เข้ากับชุมชน
การทำข้าวเม่าทรงเครื่อง
จึงเป็นอีกภูมิปัญญาหนึ่งที่เราควร อนุรักษ์ถึงวัฒนธรรมของชุมชน
ที่ได้สะท้อนความเป็นอยู่ของชาวบ้านท้องถิ่นในตำบลโพธิ์เสด็จ อำเภอเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราชตามที่ผู้วิจัยได้ทำการศึกษา
กิตติกรรมประกาศ
โครงงานฉบับนี้จะสำเร็จลุล่วงได้ด้วยความกรุณาจากอาจารย์พรทิพย์ มหันตมรรค
อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานที่ได้ให้คำแนะนำ
แนวคิด ตลอดทั้งแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ มาโดยตลอด
จนโครงงานเล่มนี้เสร็จสมบูรณ์
ผู้ศึกษาจึงกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง
ขอขอบพระคุณ คุณรัศมี ไตรสุวรรณ
ผู้ให้คำสัมภาษณ์ขั้นตอนการทำข้าวเม่าทรงเครื่องและให้คำปรึกษาในเรื่องต่างๆ
ขอขอบพระคุณพ่อแม่และผู้ปกครอง ที่คอยให้คำปรึกษาในเรื่องต่างๆ รวมทั้งเป็นกำลังใจที่ดีเสมอมา
ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ช่วยให้คำแนะนำดีๆ เกี่ยวกับการเลือกคำ และเกี่ยวกับโครงงานชิ้นนี้
คณะผู้จัดทำ
บทที่
1
บทนำ
แนวคิดที่มาและความสำคัญ
สภาพพื้นที่ที่ปลูกข้าวในภาคใต้เป็นที่ราบริมทะเล
และเป็นที่ราบระหว่างภูเขา ส่วนใหญ่ใช้น้ำฝนในการทำนา
ทางฝั่งตะวันตกจะมีฝนเร็วกว่าทางฝั่งตะวันออก และฝนจะมาล่าช้ากว่าภาคอื่น ๆ
ด้วยเหตุนี้ การทำนาในภาคใต้จึงล่าช้ากว่าภาคอื่น ชาวนาในภาคนี้
ปลูกข้าวเจ้าในฤดูนาปีกันเป็นส่วนใหญ่ ส่วนน้อยในเขตชลประทานของจังหวัดนครศรีธรรมราช
พัทลุง และสงขลา มีการปลูกข้าวนาปรังและปลูกแบบนาสวน บริเวณพื้นที่ดอนและที่สูงบนภูเขาชาวนาปลูกข้าวไร่ เมื่อเสร็จหลังฤดูเก็บเกี่ยวชาวบ้านภาคใต้ก็จะทำอาชีพเสริม
เพื่อหารายได้โดยมีการทำอาชีพขายข้าวเม่ากัน
ซึ่งข้าวเม่านั้น ได้มาจากรวงข้าวสีเขียวไล่มาจนถึงสีเขียวตกน้ำตาล
การบริโภคข้าวเม่าพบในทุกประเทศที่ปลูกข้าว ตั้งแต่ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม พม่า ภูฏาน อินเดีย ทิเบต ในภูฏานใช้เป็นอาหารว่างกินกับน้ำชา ในไทยเป็นขนมที่นิยมกินมาตั้งแต่สมัยโบราณ
ในอดีตตอนหน้าน้ำจะมีแม่ค้านำขนมใส่เรือมาขาย และขนมกลุ่มนั้นมีข้าวเม่าทอด ข้าวเม่าที่ยังไม่ได้คลุก และข้าวเม่าที่คลุกแล้วมีอยู่ด้วย
ในท้องที่อำเภอเมือง
ในจังหวัดนครศรีธรรมราช
ก็ได้นำข้าวเม่าที่มีอยู่มาแปรรูปเป็นสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์
ข้าวเม่าส่วนใหญ่ทำมาจากข้าวเหนียวการตำข้าวเม่าเป็นวิถีชีวิตหนึ่งของชาวนครศรีธรรมราชโดยเฉพาะที่ร้านไตรสุวรรณได้มีการทำผลิตภัณฑ์ข้าวเม่าทรงเครื่องเป็นอาชีพหลักและเป็นสินค้าที่ขายได้ราคาดีมีเอกลักษณ์และภูมิปัญญาในการทำเป็นของตนเอง
จากวิถีชีวิตของคนในท้องที่จึงได้ทำการศึกษาการทำข้าวเม่าทรงเครื่องเพื่อเป็นการอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นภาคใต้ให้คงอยู่สืบไป
วัตถุประสงค์
1.เพื่อศึกษาขั้นตอนวิธีการทำข้าวเม่าทรงเครื่องภูมิปัญญาท้องถิ่นภาคใต้
(ร้านไตรสุวรรณ)
2. เพื่ออนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นการทำข้าวเม่าทรงเครื่อง
3. เพื่อศึกษาดูว่าภูมิปัญญาใดที่ทำให้ข้าวเม่าทรงเครื่องของร้านไตรสุวรรณยังขายดีมาจนถึงทุกวันนี้
หลักการและทฤษฎี
การทำข้าวเม่าทรงเครื่องในท้องที่ตำบลท้องตำบลโพธิ์เสด็จ
อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช
(ร้านไตรสุวรรณ) มีการทำข้าวเม่าทรงเครื่องมาเป็นเวลา 10 ปีแล้ว
ด้วยเหตุว่าในท้องที่แห่งนี้ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนาเป็นหลัก
ในอดีตนั้นการปลูกข้าวส่วนใหญ่จะปลูกข้าวเจ้าเป็นหลัก ส่วนข้าวเหนียวนั้นมีการปลูกบ้างแต่ก็เป็นส่วนน้อย
อีกทั้งท้องที่แห่งนี้เป็นอู่ข้าวอู่น้ำของเมืองนครศรีธรรมราช
ความเป็นอยู่ของราษฎรในอดีตอยู่ในฐานะค่อนข้างดี ราษฎรมีที่นาเป็นของตนเอง
จากสภาพการเช่นนี้ทำให้ท้องที่แห่งนี้ราษฎรในแต่ละชุมชนจะใช้เวลาว่างหลังฤดูเก็บเกี่ยวในการทำกิจกรรมต่าง
ๆ อันก่อให้เกิดศิลปวัฒนธรรม
และขนบธรรมเนียมรวมถึงวิถีการดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่าย และสนุกสนาน การทำข้าวเม่าทรงเครื่องเป็นการแสดงออกให้เห็นถึงการรู้จักแปรรูปสินค้าให้มีอายุการเก็บรักษานานยิ่งขึ้นและเป็นการแปรรูปผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า
และสามารถเป็นอาชีพหนึ่งของชุมชน ซึ่งถือได้ว่าเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ควรส่งเสริมและอนุรักษ์ไว้
ขอบเขตของโครงงาน
1.ศึกษาประวัติการทำข้าวเม่าทรงเครื่องจากอินเตอร์เน็ต
2.สอบถามจากผู้รู้คือ
-
คุณรัศมี ไตรสุวรรณ ตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ 82/1
ถนนกะโรม ตำบลโพธิ์เสด็จ อำเภอเมือง
จังหวัดนครศรีธรรมราช
ประกอบอาชีพค้าขาย
สถานที่ไปทำโครงงาน
บ้านเลขที่
82/1 ถนนกะโรม ตำบลโพธิ์เสด็จ อำเภอเมือง
จังหวัดนครศรีธรรมราช
ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.
ทราบถึงวิธีการทำข้าวเม่าทรงเครื่องของชาวภาคใต้
2.เป็นการช่วยอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นภาคใต้คือ
การทำข้าวเม่าทรงเครื่อง
3.ทราบว่าภูมิปัญญาใดที่ทำให้การทำข้าวเม่าทรงเครื่องยังคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้
บุคคลานุกรม
คุณรัศมี ไตรสุวรรณ ตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ 82/1
ถนนกะโรม ตำบลโพธิ์เสด็จ
อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ประกอบอาชีพค้าขาย
บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
ประวัติความเป็นมาของข้าวเม่า
ส.พลายน้อย (2537 )
กล่าวว่า ข้าวเม่า ได้มาจากรวงข้าวสีเขียวไล่มาจนถึงสีเขียวตกน้ำตาล
การบริโภคข้าวเม่าพบในทุกประเทศที่ปลูกข้าว ตั้งแต่ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม พม่า ภูฏาน อินเดีย ทิเบต
ในภูฏานใช้เป็นอาหารว่างกินกับน้ำชา
ในไทยเป็นขนมที่นิยมกินมาตั้งแต่สมัยโบราณ
ในอดีตตอนหน้าน้ำจะมีแม่ค้านำขนมใส่เรือมาขาย และขนมกลุ่มนั้นมีข้าวเม่าทอด ข้าวเม่าที่ยังไม่ได้คลุก และข้าวเม่าที่คลุกแล้วมีอยู่ด้วย
ประภาส กล่าวว่า ข้าวเม่ามีทั้งข้าวเม่าข้าวเหนียว ข้าวเจ้าและข้าวเหนียวดำ โดยที่นิยมมากที่สุดคือข้าวเม่าข้าวเหนียว แบ่งได้เป็น 3 แบบ คือ
ข้าวฮ่างหรือข้าวเม่าอ่อนทำจากเมล็ดข้าวสีเขียวจัด ข้าวเม่าแบบเขียวอ่อน ทำจากข้าวห่ามที่เปลือกเป็นสีเขียวเข้ม
ข้าวเม่าขาวนวล ทำจากข้าวเกือบแก่ เปลือกเขียวอมน้ำตาล
วรดุลย์ ตุลารักษ์ (2540 )
กล่าวว่า
ข้าวที่จะเลือกเอาไปทำข้าวเม่าจะต้องเลือกเอาข้าวพันธุ์ดีในช่วงเวลาที่พอเหมาะซึ่งถ้าแก่เกินไปจะไม่อร่อย
เสียรสชาติ พันธุ์ข้าวที่นิยมใช้เป็นพันธุ์ข้าวเหนียว ซึ่งมีความนิ่ม หอม อร่อย
เหมาะแก่การทำข้าวเม่าเป็นที่สุดพันธุ์อื่นๆ เทียบไม่ได้หลังข้าวตั้งท้องหนึ่งเดือน
เป็นช่วงเวลาที่ข้าวติดรวงแล้วปลายรวงข้าวกำลังจะสุกเลยช่วงหางใสกลายเป็นสีเหลืองแต่โคนรวงยังเป็นสีเขียวอยู่นั้น
เป็นช่วงที่เหมาะจะเลือกเอมาทำข้าวเม่า
นิรมล ยุวบุลย์
กล่าวว่า ข้าวเม่า
เป็นขนมที่ทำกินตามช่วงฤดูกาล คำว่า “เม่า” นี้ พระยาอนุมานราชธนอธิบายว่า
น่าจะเป็นคำเดียวกับคำว่า “ มาง” ในภาษาอาหม
ที่แปลว่าทุบหรือตำให้เป็นแผ่นบาง ข้าวเม่าก็น่าจะหมายถึง ข้าวที่ทุบให้แบน ส่วนใหญ่คนไทยจะปลูกข้าวหอมมะลิไว้กินและขายเป็นหลัก
ส่วนข้าวเหนียวก็ต้องปลูกเอาไว้ทำขนมกินเอง
ข้าวเม่าบางเจ้าก็มักง่ายที่เอาข้าวเจ้ามาทำข้าวเม่าขาย โดยใช้วิธีตำใบข่าเพื่อเพิ่มสีเขียวเข้าไปดูรูปร่างหน้าตาเหมือนกัน
แต่รสมันไม่หวานเหมือนข้าวเม่าข้าวเหนียว
กว่าจะเป็นข้าวเม่าทรงเครื่อง
ข้าวเม่าทรงเครื่องพัฒนามาจากการข้าวเม่าธรรมดาแต่นำมาแปรรูปผสมวัตถุดิบต่างๆเข้าไปทำให้มีรสชาติที่อร่อยขึ้นและสามรถเก็บเอาไว้บริโภคได้นานยิ่งขึ้น
จุดเริ่มต้นของผลิตภัณฑ์
แรกเริ่ม คุณรัศมี ไตรสุวรรณ ได้ทำให้ลูกหลานรับประทานภายในครัวเรือนบ่อยครั้ง
จนเกิดความชำนาญ และได้ชักชวนสมาชิกในหมู่บ้านจัดตั้งกลุ่มสตรีขึ้นมา
โดยทำผลิตแปรรูปจากข้าวเม่า และถั่วลิสง ให้คงอยู่ได้นาน จึงคิดริเริ่มทำข้าวเม่าทรงเครื่อง
ซึ่งได้รับการถ่ายทอดจากบรรพบุรุษรุ่นปู่ย่าตายาย ให้กลุ่มได้มีอาชีพและมีรายได้เพิ่มขึ้นในกลุ่มสมาชิกที่ร่วมกันจัดตั้ง
จนทำให้มีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักกันทั่วไปทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัด ตราบทุกวันนี้
การสั่งสม สืบสานผลิตภัณฑ์
ประธานกลุ่มฯ
โดยคุณรัศมี ไตรสุวรรณ ได้รับการถ่ายทอดจากบรรพบุรุษรุ่นปู่ย่าตายาย
และสั่งสมวิชาชีพมานาน จนเกิดความชำนาญในการผลิตสินค้า จากถั่วลิสงและข้าวเม่า
นำมาแปรรูปเป็นข้าวเม่าทรงเครื่อง
บทที่
3
วิธีการดำเนินงาน
วิธีดำเนินการศึกษาค้นคว้า
การศึกษาครั้งนี้ผู้วิจัยได้ดำเนินการศึกษาค้นคว้าตามลำดับดังต่อไปนี้
1. ขั้นศึกษาข้อมูล
1.1 ขั้นสำรวจและศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง
โดยการสำรวจและศึกษาเอกสารที่ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการทำข้าวเม่าทรงเครื่อง
1.2
ศึกษาวัตถุดิบและส่วนประกอบการทำข้าวเม่าทรงเครื่อง
จากร้านไตรสุวรรณ
อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช
2. ขั้นเก็บรวบรวมข้อมูล
2.1
ได้มีการเก็บรวมรวมข้อมูลจากการสำรวจและศึกษาจากเอกสารที่ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการทำข้าวเม่าทรงเครื่อง
2.2
ได้เก็บรวบรวมข้อมูลจากการได้สังเกต และสัมภาษณ์
3. ขั้นวิเคราะห์ข้อมูล
นำข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้มาศึกษา
และวิเคราะห์ตามวัตถุประสงค์และเรียบเรียงนำเสนอในเชิงความเรียง
อุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต
1.
ข้าวเม่าทอดแล้ว
2.
หัวหอมทอด
3.
พริกไทยป่น
4.
น้ำตาลปิ๊บ
5.
กระเทียมสับละเอียด
6.
ซอยหอยนางรม
7.
ซีอิ๋วขาว
8.
ถั่วหิมพานต์
9.
กุ้งแห้ง
บทที่
4
ผลการศึกษา
ขั้นตอนการผลิต
1. นำข้าวเม่าไปทอดในกะทะที่ไฟอ่อนปานกลางพอให้ข้าวเม่าเป็นสีเหลืองทองแล้วนำขึ้นมาพักไว้ในภาชนะ
2. นำกุ้งแห้งไปทอดในกะทะที่ไฟอ่อนปานกลางพอให้ข้าวเม่าเป็นสีเหลืองทองแล้วนำขึ้นมาพักไว้ในภาชนะ
3. นำน้ำตาลปี๊บไปละลายในกระทะใช้ไฟปานกลาง
คนไปจนกว่าน้ำตาลจะละลายแล้วใส่เครื่องปรุงซีอิ๋วขาว น้ำมันหอย
4. นำข้าวเม่าที่ทอดแล้ว กุ้งแห้ง
เม็ดมะม่างหิมพานต์
กะเทียมเจียวและหัวหอมเจียว
พริกไทยมาผสมกันในภาชนะแล้วนำไปคลุกเคล้ากับน้ำตาลที่ละลายแล้วในกะทะ คนให้เข้ากันใช้ไฟปานกลาง
5. นำข้าวเม่าทรงเครื่องที่เสร็จแล้วบรรจุใส่ภาชนะ
บทที่ 5
สรุป
อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ
การวิจัยเรื่อง ข้าวเม่าทรงเครื่อง
เพื่อมาศึกษาวิธีการทำข้าวเม่า ทำให้ได้รู้ถึงรูปแบบวิธีการทำ
และวัฒนธรรมการการอนุรักษ์ของชุมชนในท้องถิ่นภาคใต้อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่สมควรรับการส่งเสริม
และอนุรักษ์ตลอดไป
จากการศึกษาพบว่า
ข้าวเม่า เป็นขนมไทยที่นิยมกินกันมาตั้งแต่โบราณ ซึ่งจะมีข้าวเม่าอยู่ด้วย
ได้มีการประยุกต์จากข้าวเม่า มาเป็นข้าวเม่าทรงเครื่อง โดยให้นำสิ่งแวดล้อมความเป็นธรรมชาติมาพัฒนาปรับปรุง
เพื่อให้เข้ากับชุมชน โดยร้านไตรสุวรรณได้มีการนำเครื่องปรุงคือ น้ำมันหอยและซีอิ๋วขาวมาใส่ในข้าวเม่าทรงเครื่องแทนน้ำปลาเพราะจะทำให้มีกลิ่นหอมมากยิ่งขึ้น
นำน้ำตาลปี๊บมาใช้แทนน้ำตาลทรายเพราะจะทำให้มีความเหนียวมากกว่า
การทำข้าวเม่าทรงเครื่อง
จึงเป็นอีกภูมิปัญญาหนึ่งที่เราควร อนุรักษ์ถึงวัฒนธรรมของชุมชน
ที่ได้สะท้อนความเป็นอยู่ของชาวบ้านในท้องถิ่นจังหวัดนครศรีธรรมราชตามที่ผู้วิจัยได้ทำการศึกษา
ประโยชน์ที่ได้รับ
1. ทราบถึงวิธีการทำข้าวเม่าทรงเครื่องของชาวภาคใต้ (ร้านไตรสุวรรณ)
2.
เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ชุมชนมีบทบาทในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม
และรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมของท้องถิ่น
3. .ทราบว่าภูมิปัญญาใดที่ทำให้การทำข้าวเม่าทรงเครื่อง (ร้านไตรสุวรรณ) ขายดีมาจนถึงทุกวันนี้
ข้อเสนอแนะ
การวิจัยเรื่อง
ข้าวเม่าทรงเครื่องเพื่อประกอบการศึกษาข้อมูล ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะดังต่อไปนี้
1.
ข้อเสนอแนะทั่วไป
1.1 ควรจะนำผลจากการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ไปปรับใช้ หรือบอกต่อคนในชุมชนอื่นๆที่สนใจเพื่อ อนุรักษ์
และสืบสานต่อไป
1.2
ควรจะนำผลการศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้เผยแพร่ให้กับบุคคลที่สนใจ เพื่อนำไปพัฒนาปรับปรุง เพื่อให้เข้ากับชุมชน
2.
ข้อเสนอแนะเพื่อการทำวิจัยครั้งต่อไป
2.1 ควรจะได้ศึกษา
รูปแบบวิถีชีวิตว่าการประกอบอาชีพเป็นอย่างไร และควรจะศึกษาข้อแตกต่างจากหลายๆชุมชนเพิ่มเติม